รีวิวThe Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี
รีวิวThe Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี ใช้ความศรัทธา เอาชนะความกลัว
ประเภทหนัง :: สยองขวัญ
ผู้กำกับ :: จูลิอัส เอเวอรี่
นำแสดงโดย :: รัสเซลล์ โครว์, ราล์ฟ อิเนสัน, ฟรังโก เนโร
ความยาวหนัง :: 1 ชั่วโมง 43 นาที
กำหนดฉายในไทย :: 26 เมษายน 2566

รีวิวThe Pope’s Exorcist ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากแฟ้มเหตุการณ์จริงของหลวงพ่อ“เกเบรียล อามอร์ธ” ผู้ทำหน้าที่ปราบผีแห่งนครวาติกัน โดยหนังมีการเล่าเรื่องราวผ่านแง่มุมของศาสนาคริสต์ ที่มีมิติไม่เน้นหนักไปทางด้านศาสนา แต่เคล้าให้เราได้สัมผัสกับความศรัทธาหลายแง่มุมของศาสนามีทั้งบาปและความชั่วร้ายที่ยังคงตามติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะเปลี่ยนผันแต่การกระทำของเราจะอยู่ติดตัวเราเสมอ และพบกับความสยองขวัญจนใจเต้นแรง พร้อมแผงอิทธิฤทธิ์การปราบผีทั่วทุกหนแห่งไปกับเขา

เรื่องย่อ เรื่องราวของ บาทหลวงอามอร์ธ เขาได้สืบเรื่องราวการถูกสิงสู่ที่โบสถ์เซนต์ เซบาสเตียนในแคว้นคาสติล ประเทศสเปน มีครอบครัวหนึ่งกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการบูรณะอาคารเก่าแก่ โบสถ์แห่งนี้มีประวัติยาวนานกับพระคริสตจักรคาธอลิค และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น ได้ถูกเปิดเผยออกมา เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดของพระคริสตจักรคาธอลิค เพราะมีการลงโทษคนที่การแสดงออกของพวกเขาไม่ได้สื่อถึงการมีศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เราทุกคนต่างก็คิดว่านั่นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการล้วงลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ของสเปน

นักแสดง เฮนรี่ ตัวละครเด็กที่โดนซาตานสิงสู่ เขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวด ความโกรธผ่านแววตา ท่าทางออกมาได้เป็นอย่างดี ผสมผสานไปกับเอฟเฟกต์ที่ทำให้เราได้สัมผัสความสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่ง อามอร์ธ อาจจะเป็นการแสดงที่เหมือนจะไม่หนักหน่วงเรื่องอารมณ์มากนัก แต่เขาทำให้เราได้สัมผัสว่าเขานั้นมีบาปที่ตามติดตัวมาและยังเป็นปมฝังในใจ ไม่กล้าก้าวข้ามมันออกไปได้ อีกทั้งในช่วงท้ายของหนังเขายังต้องวาดฝีไม้ลายมือหนักพอสมควร ตัวละครอื่น ๆ เสริมทัพเข้ามาได้ดี ทั้งแม่ พี่สาว ที่มีความหวาดระแวงขวัญผวา หรือตัวละครเท่ ๆ อย่างโทมัส ที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยของ อาร์มอธได้อย่างมุ่งมั่น และมีความศรัทธาต่อพระเจ้า

การตัดต่อ และองค์ประกอบดี กล่าวถึงฉากแม้จะมีการใช้ CG เข้ามาเสริมทัพ แต่ก็ให้สัมผัสบรรยากาศความสมจริงในภาพมุมกว้าง ต่อมาด้วยการเนรมิตสถานที่มาเป็นโบสถ์เก่า ทำให้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศความมืดหม่น ลึกลับของสถานที่นั้นด้วยมูดแอนด์โทนในช่วงเวลากลางคืน และเฟอร์นิเจอร์ไม้ โครงสร้างอาคารเก่าที่กำลังสร้าง การวางอุปกรณ์ประกอบฉากให้ความลื่นตาไม่ติดขัด แม้เรื่องแสงในช่วงเวลานั้นๆ อาจจะทำให้ตงิดใจอยู่บ้าง ด้วยช่วงเวลากลางคืน แต่มีแสงสว่างลอดผ่านทางช่องแสงต่าง ๆ แต่ด้วยองค์ประกอบการถ่ายทำหากไม่มีแสงก็อาจจะไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้ เพียงแต่อาจจะเกลี่ยแสงให้กลมกลืนกับช่วงเวลามากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ต้องชม หนึ่งคือเอฟเฟกต์ในช่วงเวลาที่ซาตานสิงสู่ถือว่าทำออกมาได้ดี มีลูกเล่นอย่างน่าสนใจ ทั้งการเปลี่ยนสีของลูกตา กรอกไปกรอกมา รวมถึงร่างกายที่มีแผลเต็มไปทั่วร่างกาย ให้ความเจ็บปวด และความน่าเกรงขามในแต่ละช่วงอารมณ์ได้ดี พร้อมทั้งเสียงดนตรีมีความเร้าอารมณ์ตั้งแต่เริ่มต้น จากการปราบซาตาน มาสู่การเดินทางปราบครั้งใหม่ ด้วยจังหวะดนตรีที่มีความงึมงำอำพรางความน่าขนลุก ปลุกความสั่นประสาทให้ได้สัมผัสความระทึกขวัญได้ดีทีเดียว

โดยภาพรวมนั้น เป็นหนังที่ทำให้เราได้ซึมซับความศรัทธา และคำที่ว่า บาปของเราจะติดตามตัวเรา ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสความเป็นจริงในชีวิตที่การกระทำใดก็ตามมันจะติดตามตัวเราไปอยู่ตลอดไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคต อีกทั้งยังไม่อัดเนื้อหาด้านศาสนามามากนัก ให้เราได้สัมผัสความระทึกขวัญ ที่ไม่สยองขวัญเท่าไรนักในการปราบซาตาน พร้อมกรชูบทบาทของหนังผ่านการแสดงของเหล่านักแสดงหลักที่ถ่ายทอดออกมาอย่างครบเครื่อง และเสียงดนตรีที่พร้อมจะกระชากวิญญาณความโหด โกรธ แค้น และทรงพลัง เข้ามาให้ผู้ชมได้สัมผัส ด้านการตัดต่อ เอฟเฟกต์ถือว่าดี แม้จะมีบางจุดไม่สมจริงเท่าไรนัก แต่ก็ผสมผสานความสนุกได้อย่างลงตัว
🎥รับชมตัวอย่างหนัง : The Pope’s Exorcist
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : เว็บรีวิวหนัง
ติดตามรีวิวหนังน่าดู : รีวิวThe Covenant