รีวิวFast and Feel Love
รีวิวFast and Feel Love เร็วโหด…เหมือนโกรธเธอ หนังรักที่เล่าเรื่องแบบหนังแอ็คชั่น
ประเภทหนัง :: ตลก / ดราม่า
ผู้กำกับ :: เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
นำแสดงโดย :: ณัฏฐ์ กิตจริต, อุรัสยา สเปอร์บันด์
ความยาวหนัง :: 2 ชั่วโมง 12 นาที
กำหนดฉายในไทย :: 6 เมษายน 2022

รีวิวFast and Feel Love เขาคนนี้ก็น่าจะเป็นผู้กำกับหนังไทยที่เต็มไปด้วยลีลาและสไตล์ที่โดดเด่นที่สุดในวงการหนังไทยยุคนี้แล้วก็จะว่าได้ ผลงานชิ้นล่าสุดของ “เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” ที่กลับมาพร้อมกับชิ้นที่แบกรับคอนเซ็ปต์เอาไว้อย่างหนักหน่วงกับ “Fast and Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” ที่คงต้องบอกว่า…โจทย์ของหนังไม่ยาก แต่จะทำเล่าเรื่องและใช้กรรมวิธีอย่างไรให้ออกมายูนีค โจทยนี้จึงเหมาะเจาะกับการที่ได้อยู่ในมือนวพลเป็นอย่างยิ่ง

รีวิวFast and Feel Love เรื่องราวจะเริ่มที่ตัวละครที่ชื่อ เกา รับบทโดย ณัฏฐ์ กิจจริต เด็กชายผู้มีความฝันอยากจะเป็นนักกีฬา Sport Stacking ที่เก่งที่สุดในโลก ความฝันของเขานั้นมันยาก และฝันไปไกลมาก ซึ่งเขาเรียนโรงเรียนเดียวกันกับ เจ (รับบทโดย อุรัสยา เสปอร์บันด์) เด็กหญิงลูกครึ่ง ที่เรียนเก่งแค่วิชาภาษาอังกฤษ และเธอก็ไม่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่แบบเกา แต่เธอกลับแค่อยากเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ฝันอยากเรียนจบ ทำงาน มีบ้าน มีครอบครัว โดยทั้งคู่ได้เริ่มเป็นเพื่อนกันสมัยมัธยม จนเวลาผ่านไปเข้าสู่ช่วงมหาลัย เจก็จะคอยเอาใจช่วยเกาอยู่เสมอ จนท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็ได้คบกันเป็นแฟน และเจบอกกับเกาว่า เธอจะอาสาคอยทำทุกอย่างแทนเกา เพื่อให้เกาจดจ่ออยู่กับการฝึก Sport Stacking จนท้ายที่สุด ในปี 2018 เกาก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้สำเร็จ ด้วยเวลา 4.7 วินาที แต่เขาก็ยังต้องฝึกต่อไป เพราะการจะหาเงินจากอาชีพนี้ได้ คือคุณต้องทำลายสถิติของตัวเองไปเรื่อยๆ จนปีถัดมา มีการจัดการแข่งอีกครั้ง แต่รอบนี้ได้มีการเปลี่ยนกติกา โดยจะให้แข่งกันทางออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้กับคนที่มีฝืมือและไม่สามารถเดินทางมาแข่งได้ ทำให้มีคู่แข่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย จนสุดท้ายมีเด็กคนหนึ่งมาทำลายสถิติของเกาได้ ด้วยเวลา 4.699 วินาที ทำให้เขาต้องฝึกหนักกว่าเดิม เพื่อจะโค่นล้มเด็กคนนี้ให้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่า เกาต้องเจอกับปัญหาชีวิตมากมาย ในการก้าวพ้นไปสู่วัยผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องทั่วไป จนไปถึงปัญหาหัวใจ และเกาจะสามารถทำลายสถิตินี้ได้หรือไม่ ทุกคนต้องไปดูกันด้วยตาตัวเอง

นักแสดง ณัฏฐ์ กิจจริต ญาญ่า อุรัสยา ก็คือคู่พระนางที่เคมีเข้ากันได้อย่างน่าแปลกประหลาดพวกเขาทั้งคู่ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยชูหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ตลอดทาง โดยเฉพาะ ณัฏฐ์ กิจจริต ที่ต้องยกนิ้วให้กับอินเนอร์หลาย ๆ ฉาก ฉายแสงความเป็นนักแสดงที่แท้ทรูออกมาได้อย่างเปล่งประกาย แม้ว่าการแสดงของเขามันออกจะเว่อร์ ๆ ไปหน่อย แต่ก็ตามบทบาทที่ได้รับเอาไว้ ขณะที่ ญาญ่า อุรัสยา ถือว่าเป็นบทที่แปลกใหม่ของเธอที่ดีทีเดียว ไม่เคยเห็นเธอเล่นสไตล์นี้มาก่อน และก็ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ไม่เบา ทั้งคู่เป็นนักแสดงที่สามารถสื่อสารผ่านอากัปกิริยาต่างๆ ได้ค่อนข้างดี

สุดท้ายมาที่เรื่องงานภาพ และการตัดต่อ ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าการตัดต่อบางครั้งมันจะดูงงๆ และไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วผมชอบเลย การตัดการบิ้วนี่มันหนังแอ็คชั่นชัดๆ แต่เรื่องราวมันโคตรจะธรรมดา แค่การนำเสนอมันดูตื่นเต้น รวดเร็ว ซึ่งมันก็เจ๋งดี ต่อมาที่งานภาพ ในจุดนี้ไม่มีที่จะติจริงๆ งานภาพทำออกมาได้ดีมากๆแล้ว เฉดสี โทนสีต่างๆที่ใช้ มันก็ดีเยี่ยม ชอบเวลาที่ตัดไปฉากของน้องคู่แข่งที่อยู่โคลัมเบีย โทนสีภาพจะเป็นโทนอุ่นๆขึ้นมากเลย อารมณ์เหมือนดูหนังแอ็คชั่นที่โลเคชั่นในเรื่องอยู่ในเขตร้อน ยกตัวอย่างง่ายๆก็ เรื่อง Extraction แต่ไม่ได้เหมือนขนาดนั้น แค่ให้อารมณ์คล้ายๆกันเฉยๆ บอกเลยว่างานภาพของเรื่องนี้ไปฉายเมืองนอกได้สบายๆเลย
โดยภาพรวมFast and Feel Love เรื่องนี้ ควรจะรู้สึก ชอบ หรือ ไม่ชอบ ดีกันแน่? เพราะหนังก็ไม่ใช่ว่าจะดีเลิศสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลยแม้แต่น้อย มันอาจจะเป็นหนังดราม่าแนวใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันประหลาด ๆ ที่แน่นอนว่าเข้าถึงยากมากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แม้ว่าหลังจากดูหนังจบลงไปแล้วจะไม่ค่อยรู้สึกผูกพันกับตัวหนังสักเท่าไหร่ แต่ก็นับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่ประหลาดดีในแวดวงหนังไทยดีเหมือนกันนะ
🎥รับชมตัวอย่างหนัง : Fast and Feel Love
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
รับชมหนังใหม่เพิ่มเติมได้ที่ : ดูหนังใหม่2022