รีวิวEverything Everywhere All at Once

เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้หลัก ๆ ต้องยกความดีความชอบให้กับบทหนังโดยแท้ คู่หูแดเนียลส์ถือได้ว่าสร้างบทหนังระดับมาสเตอร์พีชออกมาเลยก็ว่าได้ เป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยความทับซ้อนเชิงทับซ้อนเข้าไปอีก การออกแบบแนวคิดของมัลติเวิร์สของพวกเขาช่างพิลึก แต่ก็เจ๋งมากในเวลาเดียวกัน และพวกเขาก็พยายามเล่าเรื่องที่เข้าใจได้ยากออกมาด้วยวิธีที่สามารถคล้อยตามไปได้ หากว่าผู้ชมมีพื้นฐานจากพวกการดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ต่าง ๆ มาบ้างแล้ว ต้องยอมรับเลยว่า ใช้เวลาการปูเรื่องในช่วงแรกที่กินเวลานานเป็นชั่วโมง แต่กลายเป็นเวลาชั่วโมงผ่านไปที่คุ้มค่าโดยแท้ เป็นไฮไลต์ที่ทำให้เอาใจผู้ชมได้อยู่หมัด ไม่ใช่แค่เพียงบทหนังที่แข็งแรงแล้ว หนังยังเสริมด้วยองค์ประกอบอื่น ๆ เข้าไปแบบเล่นใหญ่ ไม่ว่าจะงานโปรดักชั่นดีไซน์ แสง สี และมุมภาพต่าง ๆ มีลูกเล่นที่ยอดเยี่ยม เมื่อมาผนวกกับการเล่าเรื่องที่เชื่อมกับฉากสตันท์เมามันส์ต่าง ๆ ที่แอบชวนให้นึกถึงสมัยที่เคยนั่งดูหนังบู๊ฮา ๆ แบบ ‘คนเล็กหมัดเทวดา’ ของ โจว ซิงฉือ โอ้โห้…มันพาไปได้สุดทางจริง เป็นธรรมดาที่ว่าเมื่อได้ดูซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์สในครั้งนี้ ก็อดจะนำไปเปรียบเทียบกับหนังทะลุมัลติเวิร์สในอีกจักรวาลหนึ่งที่กำลังฉายอยู่เหมือนกัน คงต้องบอกว่าหนังในจักรวาลนั้น อาจจะทำให้คนดูรู้สึกเพลินกับเทคนิคแสงสีที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ในมัลติเวิร์สที่ซือเจ๊พาเราไปในเรื่องนี้นั้น เป็นการผจญภัยพหุจักรวาลที่สนุก แต่ยังคงทำให้ผู้ชมยึดมั่นอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงและความรู้สึกเป็นมนุษย์ถ่องแท้อยู่ได้เท่าเดิม เพราะแก่นแท้ของเรื่องราวในหนังที่สามารถไปสะกิดต่อมหลาย ๆ อย่างในความคิดและการตัดสินใจในการดำรงชีวิตประจำวัน