รีวิวDragon Rider มหัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า
รีวิวDragon Rider แอนิเมชันมังกรสุดฮา กระจุยกระจาย
ประเภทหนัง :: ผจญภัย/เด็กและครอบครัว
ผู้กำกับ :: โทเมอร์ เอชเชด
นำแสดงโดย ::โทมัส โบรดี แซงสเตอร์
ความยาวหนัง :: 1 ชั่วโมง 40 นาที
กำหนดฉายในไทย :: 13 ตุลาคม 2563

รีวิวDragon Rider มหัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า หลัง Disney ถอยทัพทยอยเอาหนังแอนิเมชันของตัวเองลงสตรีมมิง Disney+ โรงหนังก็ดูจะร้างไร้หนังการ์ตูนสำหรับคุณหนู ๆ ไปโดยปริยาย แต่สำหรับเมืองไทยก็นับเป็นโชคดีที่โรงหนังยังเปิดทำการอยู่และแม้จะไ้ร้แอนิเมชันพะยี่ห้อปราสาทอัศจรรย์ เจ้ายักษ์ก็ยังมีแอนิเมชันทางเลือกอย่างสัปดาห์นี้กับ
แอนิเมชันเยอรมันนีจาก Constantine Film ที่ขอโดดมาเล่นในตลาดการ์ตูนสำหรับเด็กบ้าง ที่มีดีเกินหน้าตัวอย่างหนังเยอะเลยโดยหนังเล่าถึงมังกรเกล็ดเงินนาม ไฟร์เดรก (โทมัส โบรดี แซงสเตอร์) ที่ปมด้อยว่าตัวเองไม่สามารถพ่นไฟได้เหมือนมังกรตัวอื่น วันดีคืนดีมนุษย์เริ่มบุกรุกถิ่นที่อยู่ของมังกร เขากับ ซอร์เรล (เฟลิซิตี โจนส์) บราวน์นีป่าจอมแก่นจึงแอบเดินทางเพื่อไปหาดินแดนสวรรค์สำหรับมังกรในตำนาน และระหว่างทางก็ได้ เบน (เฟรดดี ไฮมอร์) โจรข้างถนนที่ตู่ว่าตัวเองเป็นอัศวินมังกรมาร่วมทาง แต่อุปสรรคสำคัญของพวกเขาคือ เนเทิลแบรนด์ (แพทริก สจวร์ต) หุ่นยนต์มังกรจอมโหดที่แอบตามไฟร์เดรกไปยังดินแดนสวรรค์เพื่อหวังจับมังกรกินเป็นอาหาร

รีวิวDragon Rider หนังเรื่องนี้มีงานภาพที่สวยพอสมควร แม้จะไม่ได้สวยที่สุด แต่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับงานการ์ตูนในยุคปี 2020 การออกแบบตัวละครหลัก แม้จะดูไม่มีราศีตัวเอก แต่ผมกลับมองว่ามันเป็นเอกลักษณ์มาก คือทั้งพระเอก และมังกรสีเงิน ดูไม่ได้มีหน้าตาที่หล่อเหลา หรือเป็นมังกรที่ดูสง่างาม แต่ผมคิดว่าออกแบบมาสอดคล้องกับบทพอสมควร ที่ทั้งสองต้องเป็นตัวละครที่ Low Profile ในขณะที่ตัวร้ายนั้น ผมว่าออกแบบมาได้สวย ดูดีน่าเกรงขามมากครับ อาจจะเรียกว่าตีความได้เลยว่าคาแรกเตอร์ดีไซน์ของเรื่องนี้ก็จงใจให้ตัวละครหลักหน้าตาแบบนี้แหละ
ในส่วนของเส้นเรื่องหลัก แม้ว่าหลายฉาก สถานการณ์จะดูบังเอิญไปนิด แต่ถ้ามองว่าเป็นการ์ตูนเด็ก ที่เดินเรื่องแบบไม่ซับซ้อน ผมคิดว่าโอเคเลยครับ สำหรับผู้ใหญ่นั้น หนังเรื่องนี้ก็มีการล้อการ์ตูนหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งจะนับว่าเป็น Easter Eggs ของหนังก็ได้ (แต่เป็นล้อหนังค่ายอื่นนะ) ซึ่งหลายฉากนี่ฮาได้ใจจริง ๆ (ผมว่าเด็กอาจจะไม่เก็ททั้งหมด แต่ผู้ใหญ่ที่ดู Animation มาเยอะพอ น่าจะเก็ท และฮา)

นักแสดง โทเมอร์ เอชเชด ชิมลางขยับมาทำหนังแอนิเมชันขนาดยาวเรื่องแรกได้อย่างน่าสนใจ แม้ผมเองก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่เห็นตัวอย่างหนังแล้วออกอาการยี้และเดจาวูว่ามันช่างคล้าย How to train your dragon ซะเหลือเกิน ทั้งที่จริงตัวหนังมีความออริจินัลหลายอย่างทั้งการเล่าเรื่องมังกรในยุคปัจจุบันที่วิพากษ์การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ หรือการเอาตำนานมายั่วล้อเล่นสนุกกับเทคโนโลยีแบบเต็มเหนี่ยว

เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ คอร์เนลีอา ฟุงเคอ เล่าเรื่องราวของ ไฟร์เดรค มังกรหนุ่มสีเงินที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการซ่อนตัวในหุบเขาไม้ แต่เมื่อมนุษย์พยายามจะทำลายที่ซ่อนสุดท้ายของครอบครัวเขา ไฟร์เดรคกับภูตภูเขาอย่าง ซอร์เรล จึงต้องออกค้นหาขอบสุดของสวรรค์ (Rim of Heaven) ที่หลบภัยลึกลับของเหล่ามังกร และการเดินทางครั้งนี้เอง ทำให้พวกเขาได้เจอกับ เบน เด็กกำพร้าที่อ้างว่าตนเองเป็นผู้ขี่มังกร การผจญภัยของสามสหายต่างเผ่าพันธุ์จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อม ๆ กับที่ต้องหนีการถูกไล่ล่าจาก เนทเทิลแบรนด์ ปีศาจกินมังกรที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ต้องการทำลายมังกรให้หมดสิ้นไปจากโลกมนุษย์
โดยภาพรวมนั้น Dragon Rider แม้เราจะไม่ได้ทำใจว่าจะต้องเห็นหุ่นยนต์มังกรที่เล่นแอปหาคู่แก้หิวเนื้อมังกร หรือการใช้ให้ลูกสมุนวิดีโอคอลและใช้จีพีเอสตามรอยพวกพระเอกก็ตามแต่พอปรับจูนกับหนังได้ก็พบว่ามันให้ความบันเทิงไม่น้อยเลย อีกทั้งมันยังกล้าที่จะล้อตัวเองด้วยฉากเปิดตัวหนัง How to tame your dragon เหมือนรู้ทันคนดูว่าจะต้องเปรียบเทียบหนังกับแอนิเมชันเรื่องดังแน่ ๆ ก็เป็นอีสเตอร์เอ้กที่น่าสนใจซึ่งหนังก็แอบหยอดลูกเล่นแบบนี้ไปจนจบเรื่องเลย
ว่าถึงคุณภาพแอนิเมชันก็พบว่า 80% ของมันทำได้ตามมาตรฐานแอนิเมชันระดับโลกไม่น้อยคือดูไม่ก๊องแก๊งแน่ ๆ ล่ะแต่ก็มีหลุดบางช็อตที่เหมือนยังไม่สมบูรณ์อยู่บ้างแต่ภาพรวมนับว่าน่าพอใจ เสียงพากย์อังกฤษทำได้ดีเลยโดยเฉพาะบรรดาดาราที่มาพากย์ตัวละครสำคัญทั้ง เฟลิซิตี โจนส์ จาก Star Wars Rogue One ในบทซอร์เรลตัวบราวน์นีจอมเซี้ยวก็ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงเอเนอร์จีในเสียงพากย์
🎥รับชมตัวอย่างหนัง : Dragon Rider
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
ติดตามจัดอันดับหนัง : 10หนังanimation
รับชมหนังฟรีได้ที่ : ดูหนังDragon Rider
ติดตามรีวิวหนังน่าดู : รีวิวCharm city kings