รีวิวCREED III

รีวิวCREED III สังเวียนแห่งศักดิ์ศรี มีเหตุ แต่มีผลไม่สุดทาง!

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ประเภทหนัง :: แอคชั่น / ดราม่า 
ผู้กำกับ ::  ไมเคิล บี. จอร์แดน
นำแสดงโดย :: ไมเคิล บี. จอร์แดน, โจนาธาน เมเจอร์ส, เทสซ่า ทอมป์สัน
ความยาวหนัง :: 1 ชั่วโมง 56 นาที
กำหนดฉายในไทย :: 2 มีนาคม 2023 

ภาพรวมหนัง
🎥ภาพรวมหนัง
6.5/10
🎥การเล่าเรื่อง
5/10
🎥การสร้างเรื่อง
5/10
🎥บทภาพยนต์
5/10

     รีวิวCREED III ใครที่หนังแนวบู๊ การต่อสู้หนังเรื่องนี้แนะนำเลย กลับมาอีกครั้งสำหรับการชิงบัลลังก์สังเวียนแห่งศักดิ์ศรี กีฬาชกมวย กับหนัง CREED III (ครี้ด 3) กับความร้อนแรงแผดเผาให้เราได้ตื่นเต้น และลุ้นไปกับการขึ้นสู่เวทีเพื่อก้าวถึงคำว่า แชมป์ อย่างไม่ท้อถอย ถึงแม้จะไม่เคยรับชมภาคก่อนหน้า แต่ก็สามารถเข้าใจในเนื้อหาที่สื่อออกมาได้ในทันที กับการดู CREED III ในภาคนี้ และไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องราวบนสังเวียน แต่ยังเปลี่ยนผ่านอารมณ์มาเล่าเรื่องครอบครัวพ้องกันไปอีกด้วย

รีวิวCREED III เป็นเรื่องราวของนักสู้คนนึง ที่ทำเพื่อความฝรรของตัวเอง  อโดนิส ครี้ด (รับบทโดย ไมเคิล บี. จอร์แดน) เขาได้ครองแชมป์ และเป็นเบอร์แรกของวงการมวย พร้อมไปด้วยความรุ่งเรืองในอาชีพการงาน และชีวิตครอบครัวของเอา กระทั่งเพื่อนสมัยเด็กและยังเป็นอดีตนักมวยฝีมือเยี่ยม อย่าง เดเมียน อันเดอร์สัน (รับบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส) กลับเข้ามาให้ชีวิตของเขาอีกครั้ง การเผชิญหน้ากับระหว่างเพื่อนเก่าในครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าการต่อสู้ครั้งไหน ๆ

นักแสดง ไมเคิล บี. จอร์แดน เองยังคงเอาอยู่ทุกหมัดเด็ด ฉากอารมณ์ดราม่าน้ำตาไหลพราก ฉากแอ็คชันบนสังเวียน หรือจะเป็นการฝึกซ้อมก่อนขึ้นชกมวย ช่วยทำให้เราเห็นความพยายาม และความเป็นมาของพวกเขาที่จะทุ่มเททำในสิ่งที่ตนเองรัก พร้อมไปกับการสนับสนุนจากครอบครัวเอง แต่ปมทั้งหมดทั้งมวลที่อบอวลในเรื่องนี้ ล้วนมากจากตัว อโดนิส เอง จึงบรรเลงความดราม่ามาที่ ไมเคิล บี. จอร์แดน อย่างเต็มรูปแบบ แต่การแสดงของเขาไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมาบทไหนก็จัดเต็มอย่างดุดัน

   เปิดฉากมาด้วยวัยเด็กของ 2 ตัวละครหลัก อย่าง อโดนิส และ เดเมียน มาผูกปมความสนิทไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักในปัจจุบันแบบสบาย ๆ มีฉากน่ารักให้ได้พักหัวใจก่อนจะเข้าสู่ความเข้มข้น เมื่อเขาทั้งสองคนได้พบกันอีกครั้ง และเดเมียน กลับมาเพื่อเข้าสู่สังเวียนการชกมวย ทวงตำแหน่งแชมป์ที่เขาเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน พร้อมไปกับปมในอดีตที่คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเขามากยิ่งขึ้น จึงทำให้บัลลังก์ในครั้งนี้ อโดนิส ต้องกลับลงมาทวงคืนศักดิ์ศรีของนักมวยอาชีพอีกครั้ง

     นอกเหนือจากการกล่าวถึงการชกมวย เนื้อหายังสลับไปกับเรื่องราวของครอบครัวได้ดีพอสมควร ทั้งความรัก ความห่วงใย ของภรรยา อย่าง บิอังก้า (รับบทโดย เทสซ่า ทอมป์สัน) เธอนั้นก็พักจากการทำสิ่งที่ตัวเองรัก และทำอะไรที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้ตัวเองนั้นยังคงมีความสุขกับความชอบของตนเอง และลูกสาวของเขา โทนี่ ‘ลิตเติ้ล ดุ๊ก’ เบอร์ตัน (รับบทโดย วู้ด แฮร์ริส) เมื่อเธอนั้นมีเรื่องการใช้ความรุนแรงกับเพื่อนในโรงเรียนคนหูหนวก ทว่ากลับไม่มีบทสรุปของเนื้อหาว่าต้องการสื่อถึงการต่อต้านความรุนแรง หรือผลของการกระทำแต่อย่างใด และยังจุดประเด็นอีกพอประมาณที่มีเรื่องเกิดขึ้น แต่ดึงดันไปไม่จบทาง เสมือนพอเข้าสู่แกนการชกมวยของสองตัวละครหลัก เนื้อหาอื่น ๆ ก็ค่อนข้างเบาบางลงไป

แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นการกำกับครั้งแรกของ ไมเคิล บี. จอร์แดน แต่ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ในส่วนของมิติการถ่ายทำคงต้องบอกเลยว่า เขาทำออกได้เป็นอย่างดี เสมือนว่าเขานำประสบการณ์จากครั้งก่อนบนเวที มาถ่ายทอดมุมมองของตัวละครในระหว่างการชกมวย การจัดวางแสงและเงาในการถ่าย มูดแอนด์โทนของแต่ละฉากสามารถส่งผ่านอารมณ์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงดราม่า แอ็คชัน หรือย้อนนึกถึงความทรงจำในอดีต พร้อมไปกับการรับชมในระบบ IMAX ให้ความคมชัด และสัมผัสบรรยากาศไปกับพวกเขาเลยทีเดียว

          โดยภาพรวมนั้น CREED III ด้านเนื้อหาสามารถวางได้อย่างมีชั้นเชิง หากไม่นับบางจุดที่มีเหตุก่อขึ้น แต่ผลของมันกลับไปไม่สุดทาง และไม่ได้เห็นมุมมองของสิ่งที่ต้องการจะเล่า ส่วนการแสดงของนักแสดงร้อนแรง ดุดันทุกตัวละคร เอาอยู่ทุกหมัดของแต่ละฉาก องค์ประกอบการถ่ายทำถือว่าดีเลยทีเดียว และใครที่ชื่นชอบหนังแอ็คชัน ดราม่า กีฬาชกมวยยังคงตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย และไม่ต้องห่วงเลยว่าภาค 3 จะไม่เข้าใจ เพราะเนื้อเรื่องวางได้ค่อนข้างมีมุมมองที่เข้าใจง่าย ถึงแม้จะห้วนไปบ้าง

🎥รับชมตัวอย่างหนัง : CREED III

ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง

รับชมหนังใหม่เพิ่มเติมได้ที่ : ดูหนังใหม่2023

รีวิวหนังใหม่ 2023

รีวิวหนังใหม่ 2023